[HCI1] Human
มะนุด
ทุกวันมีอะไรหลายอย่างที่เราดู เราฟัง เรากิน เราได้ยิน เราจับเราโดน เยอะแยะไปหมด รู้ตัวบ้าง ไม่รู้ตัวบ้าง เป็นแบบนี้เป็นเรื่องปกติของเรา เรารับรู้ เราคิด แล้วเราก็ทำ แต่เราไม่เคยมาสนใจว่า ทำไมเราถึงทำสิ่งต่างๆ แบบนั้นกันนะ?
ในการที่เราจะมาออกแบบสิ่งๆ หนึ่งมาเพื่อเป็นสะพานเชื่อมระหว่างคอมพิวเตอร์กับมนุษย์ได้นั้น เราเองก็ต้องศึกษาตัวเราเองเสียก่อน ว่าตัวเราเองนั้นมี Input Output อะไรบ้าง โดยสำหรับหัวข้อนี้แล้ว ใจความสำคัญก็คือ "มนุษย์มีขอบเขตและความสามารถในการประมวลผลข้อมูลอย่างจำกัด" ดังนั้น เรามาดูกันดีกว่าว่า มนุษย์รับรู้ ประมวลผล และแสดงออกอย่างไร อะไรเป็นปัจจัยอื่นๆ บ้าง โก!
Basic Input of Human
Visual 👀
เนื่องจากสมองเราประมวลผลได้จำกัด สิ่งที่เห็นอาจจะต่างจากสิ่งที่เป็นจริงก็ได้
ภาพลวงตา (Optical Illusion)
สี่เหลี่ยมจัตุรัส แต่รู้สึกว่าไม่จัตุรัส
ดีไซน์ส่งผลต่อการมองเห็น องค์ประกอบต่างๆ จะช่วยพัฒนาการรับรู้ของมนุษย์
Sound 👂
คนมีหู ดังนั้นใช้เสียงให้เป็นประโยชน์ เช่น
เป็นเสียง feedback เช่น เสียงเปิดแอร์
เสียงเตือนของมือถือ
เสียงเตือนไฟไหม้
Touch 🖖
Design ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับคอมอย่างเดียว
การออกแบบโดยใช้การสัมผัสให้เป็นประโยชน์มีมากมาย เช่น
ปุ่มนูนบนแป้นเหย้าบนคีย์บอร์ด (บนตัว F กับ J)
อักษรเบรลล์บนปุ่มลิฟต์
เบรลล์บล็อกบนทางเท้า (ซึ่งในเมืองไทยก็จะหาแบบดีๆ ยากหน่อย)
มือถือสั่นเวลากด
Movement 💃
เวลาเราออกแบบ User Interface ในคอมพิวเตอร์ เรามักจะต้องใช้อะไรสักอย่าง navigate UI นั้น ไม่ว่าจะเป็นเมาส์ เมาส์ปากกา ทัชแพด ทัชด้วยมือตรงๆ ฯลฯ
ซึ่งรูปแบบการ navigate นี้สำคัญมาก เพราะแต่ละแบบมีข้อจำกัดที่แตกต่างกัน
Fitts' Law: เป็นทฤษฎีที่พูดง่ายๆ คือ เวลาที่ใช้ในการเคลื่อนที่ไปหาอะไรบางอย่างบนพื้นผิวจะแปรผันตามระยะทางต่อขนาด (วิกิ)
พูดง่ายๆ คือ ยิ่งออกแบบให้ใหญ่ยิ่งดี หรือทำให้มันใกล้ๆ กับมือ (หรือตำแหน่งของ cursor ล่าสุด) จะได้กดง่ายๆ
Gestalt Theory
The whole is more than the sum of its parts
— Aristotle หรือเปล่านะ เห็นอันนี้บอกว่า misquote พอดีไปเจอมาจากวิกิ cite ตามนี้
Gestalt Theory อธิบายง่ายๆ ว่า สิ่งมีชีวิตรับรู้สิ่งต่างๆ เป็นกลุ่มก้อนหรือรูปแบบ ไม่ได้รับรู้แยกเป็นส่วนๆ โดยมี 4 ข้อหลักๆ คือ
Proximity: คนจะรับรู้ว่าสิ่งที่อยู่ใกล้ๆ กันเป็นพวกเดียวกัน
Similarity: คนจะรับรู้ว่าของเหมือนกันคือกลุ่มเดียวกัน
Closure: คนสามารถรับรู้โดยคร่าวก็พอ เดี๋ยวสมองจะเติม (fill in the blank) ให้เอง
Continuity: คนจะรับรู้แล้วคล้อยตามสิ่งที่ดูต่อเนื่องกัน
Gestalt อ่านว่า เกอะ-ช-แทลท์ /ɡəˈʃtælt/ นะ
เรียนมาแค่ 4 ข้อ แต่เห็นที่อื่นมีหลายข้อนะ ไปดูต่อวิกิหัวข้อ Prägnanz ต่อได้เลยจ้า
Memory
Sensory: ความจำที่เกิดจากสัมผัสของคน แต่เราไม่ได้ใส่ใจกับมัน จึงมาแล้วไปอย่างรวดเร็ว
Short Term: ความจำที่เกิดจากการที่เราดันไปใส่ใจอะไรอย่างหนึ่ง จึงเกิดส่วนนี้ขึ้นมา
Long Term: ความจำที่เกิดจากการทำซ้ำๆ ทบทวนบ่อยๆ จนร่างกายถูก stimulate เป็นประจำจนจำได้
Output
ใช้เหตุผล (Reasoning)
แก้ปัญหา (Problem Solving)
ผิดพลาด (Errors)
Slip: รู้แต่ไม่ได้ใส่ใจ ลืม เบลอ อ๊อง ฯลฯ
Mistake: ไม่รู้ เลยผิด
Other Factors
อารมณ์ (Emotion): ส่งผลต่อการตัดสินใจของมนุษย์เต็มๆ เลย อันนี้ทุกคนน่าจะรู้ เวลาเศร้ามากๆ นี่คือคิดอะไรไม่ไหว การรับรู้ (perception) เราเปลี่ยนไปหมด
ความแตกต่างทางด้านร่างกาย (Individual Differences): บางครั้งคนอื่นๆ ก็อาจจะทำบางอย่างได้ไม่เหมือนตัวเราเองด้วยปัจจัยอื่นๆ ที่ควบคุมได้หรือไม่ได้ก็ได้ เช่น
Long Term: เพศ (เปลี่ยนไม่ได้) สภาพร่างกาย (มีความพิการ) Intellectual Capabilities
Short Term: ความเครียด ความล้า
Last updated
Was this helpful?