[STA1] Experiment, Sample Space, Event

การทดลอง ปริภูมิตัวอย่าง และเหตุการณ์

การทดลอง (Experiment)

การทดลองก็ตามชื่อเลย คือลองทำมันเลยจ้า 😂

แน่นอนว่าพอเราลองแล้วมันก็จะได้ผลลัพธ์ออกมา เราก็จดตัวผลลัพธ์ไว้สวยๆ 📝

ซึ่งการทดลองพวกเนี้ย มันจะแบ่งออกไปได้ 2 แบบคือ:

1. การทำลองแบบรู้ผลแน่นอน — ทุกคนรู้ เพื่อนฉันรู้ 😂

คือเจ้าตัวเนี้ยมันจะสามารถคำนวณเลขหรือให้คำตอบออกมาได้อย่างเดียว เราก็เลยเรียกมันว่ารู้ผลแน่นอน เช่น:

  • โยนลูกบอลขึ้นฟ้าแล้วมันต้องตกลงมาตามแรงโน้มถ่วงแน่นอน ⚽

  • คำนวณโพรเจกต์ไทล์ลูกระเบิด 💣

  • ฝากเงินแล้วได้ดอกเบี้ยตามกฎของธนาคารแน่นอน 💰

เป็นต้น อย่างที่บอกไป ของพวกนี้มันมีคำตอบแค่อย่างเดียวเลยไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไร 🤷‍♀️

2. การทดลองแบบสุ่ม — ตัวเนี้ยน่าสนใจ…

หลักการของมันคือ มันจะหาค่าแน่นอนไม่ได้ แต่มันจะหาความน่าจะเป็นของคำตอบได้!

เช่น การโยนเหรียญเที่ยงตรง (โจทย์คลาสสิก)

การโยนเหรียญเที่ยงตรงเนี่ย เราก็รู้กันทุกคนแหละว่าผลลัพธ์ที่จะออกมาจะมันมีได้แค่ 2 อย่างคือ "หัว" กับ "ก้อย" ซึ่งเราบอกไม่ได้หรอกว่าโยนรอบต่อไปในชีวิตมันจะได้อะไร แต่เราบอกได้ว่า "มันมีโอกาสออกหัวก้อยได้ 50/50"

ซึ่งแน่นอนว่าเราเรียนสถิติไปเพื่อแก้ปัญหาเจ้าตัวการทดลองแบบที่ 2 นั่นแหละ แต่ก่อนเราจะไปหาว่า ทำนู่นทำนี่แล้วจะมีโอกาส % เท่าไร เราต้องรู้เรื่องถัดไปก่อน นั่นก็คือ…

ปริภูมิตัวอย่าง (Sample Space)

นิยาม: ปริภูมิตัวอย่าง (Sample Space) ของการทดลองสุ่มใดๆ คือเซตของผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ทั้งหมดจากการทดลอง เขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ SS และสมาชิกแต่ละตัวของปริภูมิตัวอย่าง เรียกว่า จุดตัวอย่าง (Sample Point)

ข้างต้น… หลังจากนี้เราจะใช้คำว่า Sample Space นะ เหตุผลคงรู้ๆ กัน 😓

พอเราทำการทดลองแล้ว ผลลัพท์ที่ได้มันก็จะมีทั้งแบบผลเดียว กับหลายๆ ผลใช่มะ เราจะเรียกตัวผลลัพธ์ที่ได้เนี่ยว่าจุดตัวอย่าง (Sample Point) โดยที่สำคัญเลยคือ เราสามารถนำจุดตัวอย่างที่ได้แต่ละตัวมาเขียนในรูป S={«จุดตัวอย่าง»}S=\{«จุดตัวอย่าง»\} ซึ่งสิ่งที่เราได้ออกมาจะเรียกว่า "Sample Space ของการทดลองสุ่ม" ❤️

อ่ะลองมาดูตัวอย่างกัน

จากตัวอย่างที่ 1 กับ 2 เราจะเห็นว่า Sample Space ของสองตัวเนี้ยจะง่ายๆ ออกมาเป็นตัวๆ แต่ในตัวอย่างที่ 3 กับ 4 เราจะพบว่า Sample Space มันเริ่มซับซ้อนขึ้น แถมยังเป็นเซตของช่วงได้อีก เราเลยบอกว่า Sample Space เนี่ยมันจะมีอยู่ 2 แบบ คือ:

  1. Sample Space จำกัด: คือมันนับได้ ต่อให้เยอะแต่ถ้านับไหวก็คือนับได้ เช่นตัวอย่าง 1 กับ 2 นับได้เลยว่ามีกี่ตัว

  2. Sample Space อนันต์: อ่ะถ้าตัวเนี้ยคือนับไม่ได้ ยิ่งนับยิ่งเยอะ พวกนี้มักจะคล้ายๆ กับตัวอย่างที่ 4 คือมีผลลัพธ์เป็นช่วงของจำนวนอะไรสักอย่างแล้วไม่มีลิมิต แต่เพื่อความปลอดภัยยังไง recheck ก่อนนะว่ามันนับไหวป่าว (นับไหว → นับได้)

พอเรารู้แล้วว่าการทดลองสุ่มของเราจะให้ผลลัพธ์อะไรออกมาบ้าง เราก็จะเอาการทดลองของเรามาดัดแปลงเพื่อให้ได้สิ่งที่เราอยากได้ ซึ่งก็จะต้องพูดถึงเรื่อง…

เหตุการณ์ (Event)

นิยาม: เหตุการณ์ (Event) คือเซตย่อยของปริภูมิตัวอย่าง ซึ่งแบ่งเป็น:

  • เหตุการณ์อย่างง่าย มีสมาชิก 1 ตัว

  • เหตุการณ์ประสม มีสมาชิกมากกว่า 1 ตัว

เราอาจจะสังเกตว่า การทดลองสุ่มที่เรายกขึ้นมาแต่ละอันนั้นมันจะให้ Sample Space ออกมาแค่อย่างเดียว เหมือนกันเสมอๆ

แต่จริงๆ เราสามารถ modify ให้มันละเอียดขึ้นได้โดยการกำหนดเหตุการณ์เพิ่มเติมลงไป ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ก็จะให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นเซตเหมือน Sample Space ซึ่งอาจจะมีทุกตัวหรือบางตัวก็ได้ (อ้างอิงจากนิยามที่ว่า "เป็นเซตย่อยของปริภูมิตัวอย่าง") เอาเป็นว่า เรามาดูตัวอย่างเรื่องของการกำหนดเหตุการณ์จากการทดลองสุ่มกันก่อนดีกว่า

จากการทดลองสุ่มนี้ เราจะเห็นว่าเหตุการณ์ 3 ตัวนี้จะส่งผลให้ผลลัพธ์จาก Sample Space เดิมนั้นเปลี่ยนไป (ผลลัพธ์เปลี่ยนนะ ไม่ใช่ Sample Space เปลี่ยน — Sample Space คือสิ่งที่เป็นไปได้_ทั้งหมด_) นั่นคือ:

  • ผลลัพธ์ของเหตุการณ์ A คือ: 1, 2, 3, 4, 5, 6 (A={1,2,3,4,5,6}A=\{1,2,3,4,5,6\})

  • ผลลัพธ์ของเหตุการณ์ B คือ: 1, 3, 5 (B={1,3,5}B=\{1,3,5\})

  • ผลลัพธ์ของเหตุการณ์ C คือ: 1 (C={1}C=\{1\})

จะเห็นว่าเหตุการณ์พวกนี้จะเป็นซับเซตของ Sample Space หมดเลย (AS,BS,CSA\subset S,B\subset S,C\subset S) ดังนั้นถ้าเหตุการณ์ที่ได้มีตัวแปลกๆ ที่ไม่อยู่ใน Sample Space ปนอยู่ล่ะก็… เธอพลาดละ… 😂

แน่นอนว่าเหตุการณ์ก็ยังแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ:

  1. เหตุการณ์อย่างง่าย: ก็คือมีสมาชิก 1 ตัว เช่นเหตุการณ์ C ที่ยกตัวอย่างไป

  2. เหตุการณ์ประสม: ตัวนี้จะมีสมาชิกมากกว่า 1 ตัว เช่น เหตุการณ์ A กับ B ตามที่ยกตัวอย่างไปเช่นกัน

นอกจากนี้ เจ้าเหตุการณ์พวกนี้ก็ยังเขียนเป็นเซตได้เหมือนกัน ดังนั้น การดำเนินการระหว่างเซตจะทำให้เกิดเหตุการณ์ใหม่ ❤️ เช่น:

จับเอาเหตุการณ์ A มา_อินเทอร์เซ็กต์_กับ B (ABA\cap B) เราจะได้เหตุการณ์ "เมื่อทอดลูกเต๋าแล้วได้แต้มน้อยกว่า 7 _และ_ได้แต้มคี่"

นั่นคือเราจะได้ {1,2,3,4,5,6}{1,3,5}={1,3,5}\{1,2,3,4,5,6\}\cap\{1,3,5\}=\{1,3,5\} 🎉

หรือถ้าเราเอาเหตุการณ์ B มา_ยูเนียน_กับ C (BCB\cup C) เราก็จะได้เหตุการณ์ "เมื่อทอดลูกเต๋าแล้วได้แต้มคี่_หรือ_ได้ค่าที่น้อยที่สุด"

ก็จะได้เป็น {1,3,5}{1}={1,3,5}\{1,3,5\}\cup\{1\}=\{1,3,5\}

จะเห็นว่าเราจะสามารถสร้างเหตุการณ์ใหม่ๆ ขึ้นได้เยอะเลย 😄

แต่…

บางเหตุการณ์เมื่อเราเอามาดำเนินการกันแล้ว อาจจะได้เซตว่างก็ได้นะ 🤔 เช่น:

ถ้าเราเอาเหตุการณ์ B มาอินเทอร์เซ็กต์กับ D ก็จะได้ว่า BD={1,3,5}{2,4,6}=B\cap D=\{1,3,5\}\cap\{2,4,6\}=\varnothing

แน่นอนว่าเรารู้อยู่ละว่ายังไงลูกเต๋ามันจะเกิดหน้าคู่และคี่พร้อมกันไม่ได้แน่ๆ มันเลยให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นเซตว่างหรือก็คือ ไม่มีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น

เราจะเรียกเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ที่เอามาอินเทอร์เซ็กต์กันแล้วได้เซตว่างเนี้ยว่า "เหตุการณ์ที่เกิดร่วมกันไม่ได้ (mutually exclusive)" ❤️

นิยาม: ถ้าเหตุการณ์ A กับ B ไม่มีจุดตัวอย่างร่วมกัน นั่นคือ AB=A\cap B=\varnothing เรียก A กับ B ว่า เป็นเหตุการณ์ที่เกิดร่วมกันไม่ได้ (mutually exclusive)

ทั้งหมดที่เราได้พูดไปแล้วก็คือเรื่องของ "เหตุการณ์ (Event)" และสิ่งที่เกิดขึ้นได้จากเหตุการณ์ ในส่วนนี้อาจจะยืดยาวหน่อย ถ้าไม่เข้าใจลองเปิดหาตัวอย่างเพิ่มเติมได้เลยนะ 🔎

เอาเป็นว่า เราไปดูสรุปกันดีกว่า 😄

สรุปเนื้อหา

  • การทดลอง (Experiment):

    • ลองทำ → ได้ผลลัพธ์

    • 2 แบบ:

      1. รู้ผลแน่นอน: คำนวณหาค่าที่แน่นอนได้

      2. สุ่ม: หาค่าแน่นอนไม่ได้ แต่หาความน่าจะเป็นได้

  • ปริภูมิตัวอย่าง (Sample Space):

    • เซตของผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ทั้งหมด

    • E.g.: ผลการสอบนักศึกษา 1 คน → S={ผ่าน,ไม่ผ่าน}S=\{ผ่าน,ไม่ผ่าน\}

    • 2 แบบ:

      1. จำกัด: นับได้ (ต่อให้เยอะ ถ้านับได้ก็เป็น)

      2. อนันต์: \infty (มักอยู่บนช่วงจำนวนไม่มีลิมิต)

  • เหตุการณ์ (Event):

    • เซตย่อยของ S

    • 2 ประเภท:

      1. ง่าย: มีตัวเดียว

      2. ประสม: มีหลายตัว

    • เนื่องจากเหตุการณ์แทนได้ด้วยเซต \therefore การดำเนินการระหว่างเซตจะเกิดเหตุการณ์ใหม่ขึ้น

    • AB=A\cap B=\varnothing → เหตุการณ์เกิดร่วมกันไม่ได้ (Mutually Exclusive)

ก็จบลงไปแล้วสำหรับ EP1 เนอะ ใจจริงก็อยากจะเขียนทั้งบทที่ 1 ให้มันจบๆ ไปเลย แต่โอ้โหเราพิมพ์ขยายความไปเยอะมากๆ 😂 เอาเป็นว่าถ้าว่างๆ แล้วก็จะมาพิมพ์ลงให้อีกน้า แล้วเจอกันใน EP2 จ้า 👋

Last updated

Was this helpful?